จุดเริ่มต้นของรองเท้าเซฟตี้ (Safety shoes)
จุดเริ่มต้นของรองเท้าเซฟตี้ (Safety shoes)
ความเป็นมาของรองเท้า
จากการศึกษากระดูกเท้าของมนุษย์ยุคดึกดำบรรพ์ พบว่ากระดูกหัวแม่เท้ามีขนาดเล็กลงเรื่อยๆ สันนิษฐานว่า เกิดจากถูกอุปกรณ์บีบรัดบริเวณหัวแม่เท้า อาจเกิดจากการสวมรองเท้า
รองเท้าแตะฟอร์ทร็อค คือ รองเท้าที่เก่าแก่ที่สุด ถูกค้นพบในถ้ำฟอร์ทร็อค (Fort Rock cave) สหรัฐอเมริกา อายุประมาณ 9,000 – 10,000 ปี ทำจากเปลือกไม้ด้วยวิธีการสาน รองเท้ามีการวิวัฒนาการมาอย่างต่อเนื่อง เริ่มต้นจากการใช้เปลือกไม้ หนังหมี หนังวัว และวัสดุสังเคราะห์
รองเท้าแตะฟอร์ทร็อค
รองเท้าเซฟตี้ (Safety shoes) เริ่มขึ้นเมื่อไหร่
ในช่วงศตวรรษที่ 16 ฝรั่งเศส เนเธอร์แลนด์ เบลเยียม และอิตาลี เริ่มผลิตรองเท้าที่เรียกว่า ซาบอท (Sabots) ทำจากไม้ทั้งชิ้นที่ถูกทำให้กลวงจนสามารถสวมใส่ได้ เพื่อป้องกันวัว หรือม้าเหยียบเท้าขณะทำงานเกษตรกรรม
รองเท้าแตะฟอร์ทร็อค
ในยุคปฏิวัติอุตสาหกรรม มีการกดขี่คนงานจนเกิดการประท้วง คนงานได้ใช้ซาบอท (Sabots) ทำลายเครื่องจักร จนเป็นที่มาของ Sabotaged ที่แปลว่า การก่อวินาศกรรม
ภายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ความปลอดภัยในงานอุตสาหกรรม มีสำคัญมากยิ่งขึ้นเรื่อยๆ หลายประเทศได้ออกกฎหมาย และบทลงโทษที่รุนแรงมากขึ้น หลายบริษัทจึงต้องคิดวิธีการป้องกันอุบัติเหตุ เพื่อไม่ให้ส่งผลเสียกับบริษัท หนึ่งในมาตรการที่จำเป็น คือ การป้องกันอุบัติเหตุจากเท้า
ประเทศเยอรมันนี เป็นประเทศแรกที่มีการผลิตรองเท้าหัวเหล็กให้พนักงานใช้งาน เพื่อป้องกันวัสดุตก หรือกระแทกเท้า จนได้รับความนิยม และแพร่หลายทั่วโลก
ต่อมาได้มีการผลิตแผ่นเหล็กฝ่าเท้าเพิ่มเติม เพื่อป้องกันของแหลมทิ่มตำฝ่าเท้า และเนื่องจากมีการผลิตรองเท้าเซฟตี้ออกมาหลากหลาย ทำให้ในปี 1970 “OSHA หรือ Occupational Safety & Health Act” ของสหรัฐอเมริกา ได้ออกกฎหมายบังคับเรื่องมาตรฐานรองเท้าเซฟตี้ขึ้น เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถป้องกันอุบัติที่จะเกิดขึ้นกับเท้าได้จริง จนถึงปัจจุบันได้มีมาตรฐานเกี่ยวกับรองเท้าเซฟตี้ออกมาอย่างมากมาย
รองเท้าเซฟตี้ (Safety shoes) ในปัจจุบัน
ปัจจุบันรองเท้าเซฟตี้มีหลายรูปแบบ หลายสไตล์ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของการใช้งาน รวมถึงความชื่นชอบของผู้ใช้งาน “MAXSAFE” ได้พัฒนารองเท้าเซฟตี้ให้ทันสมัย น้ำหนักเบา เพื่อให้ผู้สวมใส่รู้สึกสบาย ไม่เป็นภาระเท้า แต่ยังได้รับการป้องกันเท้าอย่าเต็มประสิทธิภาพ ด้วยการผลิตที่ได้รับมาตรฐาน และมีโรงงานผลิตรองเท้าเซฟตี้ที่มีคุณภาพภายในประเทศ
พื้นนีโอไลท์ (Neolite) (คลิกที่นี่) เป็นพื้นรองเท้าเซฟตี้เฉพาะแบรนด์ “MAXSAFE” ที่มีน้ำหนักเบา
แผ่นรอง (Insole) ที่มีปุ่มนวดเท้า ทำให้สวมใส่สบาย คล่องตัว เดิน หรือยืนได้นาน ลดความเมื่อยล้าขณะทำงานได้ดีมากยิ่งขึ้น
หัวรองเท้าวัสดุคอมโพสิต ก็เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่นิยมนำมาใช้ทดแทนหัวเหล็ก ด้วยน้ำหนักที่เบากว่า ไม่เป็นสื่อนำไฟฟ้า แต่สามารถป้องกันแรงกระแทกได้ตามมาตรฐาน คือ 200 จูล
รองเท้าเซฟตี้พื้นนีโอไลท์ (Neolite)
รองเท้าเซฟตี้หัวยาง (คลิกที่นี่) เพิ่มการป้องกันรองเท้าจากรอยถลอก รอยขีดข่วน บริเวณหน้าเท้า ทำให้ยืดอายุการใช้งานรองเท้าเซฟตี้เพิ่มมากขึ้น
รองเท้าเซฟตี้ป้องกันไฟฟ้าสถิต/ESD (คลิกที่นี่) เป็นอีกหนึ่งตัวเลือก สำหรับอุตสาหกรรมที่ต้องการป้องกันไฟฟ้าฟ้าที่จะเกิดขึ้นในกระบวนการผลิต เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ แผงวงจร อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมขวด/กระป๋อง เป็นต้น
นอกจากนี้ MAXSAFE ยังโดดเด่นในเรื่องรองเท้าเซฟตี้สไตล์แฟชั่น หลากหลายสีสัน ลบภาพจำรองเท้าเซฟตี้แบบเดิม สามารถสวมใส่ได้ในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น