รองเท้าเซฟตี้กันไฟฟ้าสถิต (Anti-static และ ESD) คืออะไร

 

รองเท้าเซฟตี้กันไฟฟ้าสถิต (Anti-Static และ ESD) คืออะไร

 

      รองเท้าเซฟตี้กันไฟฟ้าสถิต (Anti-Static) คือ รองเท้าเซฟตี้ที่สามารถป้องกันไฟฟ้าสถิตในช่วง 0.1 เมกะโอห์ม (MΩ) ถึง 1,000 เมกะโอห์ม (MΩ)

      รองเท้าเซฟตี้กันไฟฟ้าสถิต (ESD) คือ รองเท้าเซฟตี้ที่สามารถป้องกันไฟฟ้าสถิตในช่วง 0.1 เมกะโอห์ม (MΩ) ถึง 35 เมกะโอห์ม (MΩ)

 

รองเท้าเซฟตี้กันไฟฟ้าสถิต (Anti-Static และ ESD) แตกต่างกันอย่างไร

        รองเท้าเซฟตี้กันไฟฟ้าสถิต ทั้ง Anti-Static และ ESD เป็นรองเท้าเซฟตี้ที่สามารถถ่ายประจุไฟฟ้า เพื่อป้องกันไม่ให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายลงสู่พื้นอย่างกะทันหัน ระหว่างวัตถุที่มีประจุไฟฟ้าที่เกิดจากการสัมผัส เช่น การสัมผัสวัตถุที่เป็นโลหะ วัตถุที่พื้นผิวแห้ง เป็นต้น พูดง่ายๆ ก็คือ เมื่อสวมรองเท้าเซฟตี้ Anti-Static หรือ ESD จะยอมให้ประจุไฟฟ้าไหลผ่านร่างกายอย่างเหมาะสม

        รองเท้าเซฟตี้ ESD ช่วยป้องกันการสะสมประจุไฟฟ้าสถิตในร่างกายได้ดีกว่ารองเท้าเซฟตี้กันไฟฟ้าสถิต Anti-Static เนื่องจากรองเท้าเซฟตี้ ESD จะสามารถถ่ายประจุไฟฟ้าได้ดี จึงลดโอากาสที่ประจุไฟฟ้าจะสะสมในร่างกาย

         แต่ทั้ง 2 สามารถป้องกันไฟฟ้าสถิตได้เช่นกัน แตกต่างกันที่จุดประสงค์ของการใช้งาน

 

ทำไมควรใช้รองเท้าเซฟตี้กันไฟฟ้าสถิต (Anti-Static และ ESD) 

      รองเท้าเซฟตี้กันไฟฟ้าสถิต (Anti-Static และ ESD) เหมาะกับหน้างานที่มีความเสี่ยงที่จะเกิดไฟฟ้าสถิตขึ้นในกระบวนการผลิต เช่น อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ ผลิตแผงวงจร อุตสาหกรรมรถยนต์ อุตสาหกรรมขวด/กระป๋อง เป็นต้น ที่จะส่งผลทำให้เกิดความเสียหายทั้งต่อตัวผลิตภัณฑ์ และตัวผู้ปฎิบัติงานเอง เช่น แผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์เสียหาย เกิดไฟฟ้าสถิตขณะสัมผัสผิววัสดุที่เป็นโลหะ เป็นต้น

      รวมทั้งหากเกิดไฟฟ้าสถิตในพื้นที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น พื้นที่ที่มีสารเคมี ก็จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดเพลิงไหม้ขึ้นได้

 

รองเท้ากันไฟฟ้าสถิต (Anti-Static และ ESD) MAXSAFE (คลิกที่นี่)

 

 

 

 

 

Visitors: 179,434